คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

อัตราการใช้สารคลุกเมล็ดเพื่อควบคุมโรคไหม้ดำ (Bacterial wilt; Ralstonia solanacearum) และเน่าดำ ( Charcoal rot; Macrophomina phaseolina) ในงา

คำหลัก : งา แคปแทน เบโนมิล สเตรปโตมัยซินซัลเฟต

ผู้วิจัย : ประภาพร แพงดา

ผู้ร่วมวิจัย : บุญเหลือ ศรีมุงคุณ, อรอนงค์ วรรณวงษ์, ลักขณา ร่มเย็น, จำลอง กกรัมย์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี

ปี: 2560

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 16 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ดำเนินการทดลอง ณ. ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ปี 2559 - 2560 วางแผนการทดลองแบบ RCB 3 ซ้ำ 8 กรรมวิธี คือ1. คลุกเมล็ดด้วย เบนโนมิล 50% อัตรา 15 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม และพ่นสารเบนโนมิล อัตรา 20 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตร ที่อายุ 45 วัน 2. คลุกเมล็ดด้วยเบนโนมิล 50% อัตรา 20 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม และพ่นสารเบนโนมิล อัตรา 20 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตรที่อายุ 45 วัน 3. คลุกเมล็ดด้วยแคปแทน อัตรา 5 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม และแคปแทน อัตรา 30 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตร เมื่องาอายุ 45 วัน 4. คลุกเมล็ดด้วยแคปแทนอัตรา 7.5 กรัม แคปแทน/เมล็ด 1 กิโลกรัม และพ่นแคปแทนอัตรา 30 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตรที่อายุ 45 วัน 5. คลุกเมล็ดด้วยสเตรปโตมัยซินซัลเฟต 75 มิลลิกรัม/ลิตร/เมล็ด 1 กิโลกรัม + เบนโนมิล 50% อัตรา 15 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม 6. คลุกเมล็ดด้วยสเตรปโตมัยซินซัลเฟต 75 มิลลิกรัม/ลิตร + แคปแทน อัตรา 5 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม 7. คลุกเมล็ดด้วยสเตรปโตมัยซินซัลเฟต 75 มิลลิกรัม/ลิตร/เมล็ด 1 กิโลกรัม 8. ไม่มีการคลุกเมล็ดและไม่พ่นสารป้องกันกำจัดโรค ดำเนินการทดลองต้นฝนและปลายฝนโดยปลูกงาดำพันธุ์อุบลราชธานี3 และงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี2 ผลการทดลองปี 2559 พบว่า การคลุกเมล็ดงาดำพันธุ์อุบลราชธานี3 ด้วยแคปแทนอัตรา 7.5 กรัม แคปแทน/เมล็ด 1 กิโลกรัม และพ่นแคปแทนอัตรา 30 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตร ที่อายุ 45 วัน ให้ผลผลิตสูงสุด 11 กิโลกรัม/ไร่ แต่ไม่มีความแตกต่างทางสถิติจากทุกกรรมวิธี การคลุกเมล็ดงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี2 ด้วยเบนโนมิล 50% อัตรา 15 กรัม/เมล็ด 1 กิโลกรัม และพ่นสารเบนโนมิล อัตรา 20 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตร ที่อายุ 45 วัน ให้ผลผลิตสูงสุด 21.34 กิโลกรัม/ไร่ แต่ไม่มีความแตกต่างทางสถิติจากทุกกรรมวิธีส่วนการปลูกงาปลายฝนพบว่า ไม่มีการคลุกเมล็ดและไม่พ่นสารป้องกันกำจัดโรคในงาดำพันธุ์อุบลราชธานี3 และงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี2 ให้ผลผลิตสูงสุด 44 และ 48.74 กิโลกรัม/ไร่ ตามลำดับ ไม่มีความแตกต่างทางสถิติทุกกรรมวิธี เนื่องจากปี 2559 การใช้สารคลุกเมล็ดไม่สามารถควบคุมโรคได้ ปี 2560 จึงเพิ่มกรรมวิธีในการทดลองอีก 3 กรรมวิธี คือ พ่นสารเบนโนมิล อัตรา 20 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตรที่อายุ 45 วันพ่นสารแคปแทนอัตรา 30 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตรที่อายุ 45 วัน พ่นสารสเตรปโตมัยซินซัลเฟต อัตรา 10 กรัม/น้ำตาล 20 ลิตรที่อายุ 45 วัน ผลการทดลองพบว่า ทุกกรรมวิธีไม่สามารถควบคุมการเกิดโรคในต้นฤดูฝนได้เนื่องจากทำให้งาตายทั้งหมดไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ส่วนงาในปลายฤดูฝนทุกกรรมวิธีไม่สามารถควบคุมโรคได้เช่นกันเนื่องต้นงาตายทั้งหมดก่อนจะถึงอายุเก็บเกี่ยว จากการศึกษาอัตราการใช้สารคลุกเมล็ดเพื่อควบคุมโรคไหม้ดำ (Bacterial wilt;
Ralstonia solanacearum) และเน่าดำ (Charcoal rot; Macrophomina phaseolina) ในงา ทั้ง 2 ปี ในต้นและปลายฤดูฝนพบว่าการใช้สารคลุกเมล็ดในอัตราต่างๆ ไม่สามารถควบคุมการเกิดโรคได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 4 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-06-2568

แจ้งไฟล์หาย