คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีควบคุมด้วงหมัดผักแบบผสมผสานในพืชผักตระกูลกะหล่ำ (กวางตุ้ง คะน้า) จังหวัดขอนแก่น

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ศิริลักษณ์ พุทธวงค์

ผู้ร่วมวิจัย : รพีพร ศรีสถิตย์, วัชราพร ศรีสว่างวงศ์, ปราณี วรเนตรสุดาทิพย์, อรัญญา ลุนจันทา, อุบล หินเธาว์, วิไลวรรณ เวชยันต์, ทัศนาพร ทัศคร, คำภีร์ เชิมชัยภูมิ, หัทยา พรมโต, ปริมประภา รักษาภักดี

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชขอนแก่น สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชขอนแก่น องค์การบริหารส่วนต่าบลดอนหัน

ปี: 2560

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 5 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          จังหวัดขอนแก่นมีแหล่งเพาะปลูกพืชผักกระจายอยู่ตามพื้นที่ที่มีระบบชลประทาน ปัญหาการผลิตพืชผัก ได้แก่ ปัญหาการเพาะปลูกผักแบบเชิงเดี่ยวโดยปลูกพืชชนิดเดียวเป็นบริเวณกว้างตลอดทั้งปีทำให้มีการสะสมศัตรูพืช ได้แก่ ด้วงหมัดผัก หนอนใยผัก หนอนกระทู้ผัก และโรคเน่าคอดิน ในส่วนด้วงหมัดผักมักเป็นศัตรูพืชที่ระบาดตลอดทั้งปี เกษตรกรแก้ไขปัญหาโดยใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทำให้ศัตรูพืชต้านทานสารเคมีและประสิทธิภาพการกำจัดลดลง ทำให้ต้องใช้สารเคมีปริมาณมากขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตพืชผักสูงขึ้น มีรายได้และผลตอบแทนน้อยลงหรืออาจไม่ได้ผลผลิตและขาดทุนในที่สุด การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการด้วงหมัดผักที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ดำเนินการในพื้นที่ปลูกพืชผักของเกษตรกรและเกษตรกรเป็นผู้ปฏิบัติการทดลอง มีขั้นตอนการทดลองเริ่มจากการวางแผนการทดลองโดยเกษตรกรและมีนักวิจัยเป็นผู้ให้คำปรึกษา แผนการทดลองเป็นการเปรียบเทียบการปฏิบัติ 2 กรรมวิธี คือกรรมวิธีทดสอบเป็นเทคโนโลยีการจัดการการระบาดของด้วงหมัดผักของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ การไถตากดินเพื่อกำจัดไข่และตัวอ่อน จากนั้นรดหรือพ่นไส้เดือนฝอยกำจัดแมลงสายพันธุ์ไทย (Steinernema siamkayai KB Strain) ก่อนและระหว่างการเพาะปลูกทุก 5 - 7 วัน และกรรมวิธีเดิมของเกษตรกรที่มีการไถตากดินร่วมกับการใช้สารเคมีฉีดพ่นทุก 3 - 5 วัน ในช่วงที่พืชมีอายุ 7 - 28 วัน ผลการทดลองพบว่ากรรมวิธีทดสอบและกรรมวิธีเกษตรกรให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน แต่กรรมวิธีทดสอบมีต้นทุนการผลิตคะน้าและกวางตุ้ง 5,540 บาท/ไร่ ต่ำกว่าต้นทุนของกรรมวิธีเกษตรกรที่มีต้นทุน 5,780 (คะน้า) และ 5,860 (กวางตุ้ง) บาท/ไร่ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของกรรมวิธีทดสอบมีรายได้ตอบแทนสุทธิคะน้ายอดและคะน้าต้นใหญ่ 45,710 และ44,060 บาท/ไร่ ตามลำดับ ซึ่งมีรายได้สูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกรคะน้ายอดและคะน้าต้นใหญ่ 45,570 และ 43,810 บาท/ไร่ ตามลำดับ และกรรมวิธีทดสอบมีค่าตอบแทนต่อหน่วยลงทุน (BCR) คะน้ายอดและคะน้าต้นใหญ่ 8.251 และ 7.953 ตามลำดับ สูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกรที่มีค่า BCR คะน้ายอดและคะน้าต้นใหญ่ 7.884 และ 7.580 ตามลำดับ ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของการผลิตกวางตุ้งให้ผลเช่นเดียวกัน คือ กรรมวิธีทดสอบมีรายได้ตอบแทนสุทธิ 44,470 บาท/ไร่ ซึ่งสูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกร 43,610 บาท/ไร่ และกรรมวิธีทดสอบมีค่า BCR 8.027 สูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกร 7.442 นอกจากนี้ผลผลิตที่ได้จากแปลงกรรมวิธีทดสอบทุกแปลงไม่พบสารพิษตกค้าง ส่วนแปลงกรรมวิธีเกษตรกรพบสารพิษตกค้างทั้งในคะน้าและกวางตุ้ง จากผลการทดลองสรุปได้ว่าเทคโนโลยีการจัดการด้วงหมัดผักสามารถลดการระบาดของแมลงได้และทำให้ผลผลิตที่ปลอดภัยและมีรายได้และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่าต่อการลงทุนได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 2 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 01-07-2568

แจ้งไฟล์หาย