คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ต้นทุนและวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของทานตะวันชนิดสกัดน้ำมัน

คำหลัก : ทานตะวัน ต้นทุนการผลิต crop cutting

ผู้วิจัย : รัศมี สิมมา

ผู้ร่วมวิจัย : ปิยะรัตน์ จังพล, เพ็ญรัตน์ เทียมเพ็ง

หน่วยงาน : สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์

ปี: 2559

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 11 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ทานตะวันเป็นพืชน้ำมันที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทานตะวันมี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ใช้ผลิตน้ำมันและชนิดขบเคี้ยว ประเทศไทยต้องการผลผลิตทานตะวันในปริมาณมากแต่สามารถผลิตได้เพียง 30% เท่านั้น พบว่ามีการนำเข้าทานตะวันในรูปของเมล็ดทานตะวัน น้ำมันพืช และกากน้ำมันและกากแข็งที่ได้จากการสกัดเมล็ดทานตะวันเพื่อเป็นอาหารสัตว์มูลค่ามากกว่า 800 ล้านบาท/ปี การทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของการผลิตทานตะวันประเภทสกัดน้ำมันในประเทศ และทดสอบผลผลิตในแปลงเกษตรกร (crop cutting) ดำเนินการศึกษา โดยสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกทานตะวัน ในจังหวัดนครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี และสระบุรี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงกันยายน 2559 จำนวน 98 ราย แบ่งเป็นเกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ 26 ราย จังหวัดเพชรบูรณ์10 ราย จังหวัดลพบุรี 51 ราย จังหวัดสระบุรี 11 ราย พบว่า ในปี 2559 เกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ มีต้นทุนเฉลี่ยการปลูกทานตะวัน 2,365 บาทต่อไร่ และขาดทุน 306 บาทต่อไร่ เกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ มีต้นทุนเฉลี่ยการปลูกทานตะวัน 1,463 บาทต่อไร่ และได้รับผลตอบแทน 107 บาทต่อไร่ เกษตรกรจังหวัดลพบุรี มีต้นทุนเฉลี่ยการปลูกทานตะวัน 2,524 บาทต่อไร่ และขาดทุน 794 บาทต่อไร่ และเกษตรกรจังหวัดสระบุรี มีต้นทุนเฉลี่ยการปลูกทานตะวัน 1,698 บาทต่อไร่ และได้รับผลตอบแทน 727 บาทต่อไร่ เมื่อทดสอบผลผลิตในแปลงเกษตรกร (crop cutting) พบว่า ค่าเฉลี่ยผลผลิตในแปลงทดสอบมีค่าแตกต่างจากผลผลิตที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้จริง ร้อยละ 37 และต้นทุนผันแปรสูงสุด 3 อันดับของการปลูกทานตะวัน ได้แก่ ค่าเมล็ดพันธุ์ 417 บาทต่อไร่ คิดเป็นร้อยละ 20.7 รองลงมาค่าจ้างเก็บเกี่ยว 256 บาทต่อไร่ คิดเป็นร้อยละ 12.7 และค่าจ้างปลูก 206 บาทต่อไร่ คิดเป็นร้อยละ 10.2

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 3 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 04-08-2568

แจ้งไฟล์หาย