คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันลูกผสมโดยการจัดการธาตุอาหาร

คำหลัก :

ผู้วิจัย : เกริกชัย ธนรักษ์

ผู้ร่วมวิจัย : จิรพรรณ สุขชิต

หน่วยงาน :

ปี: 2558

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 12 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมันเพื่อประเมินความต้องการธาตุอาหารของปาล์มน้ำมัน เป็นวิธีการที่ยอมรับกันโดยทั่วไป โดยการวิเคราะห์ดินเป็นการแสดงให้เห็นถึงสภาพของดินทั้งทางกายภาพ และเคมี บ่งชี้ถึงความสามารถศักยภาพ และข้อจำกัดของดิน ในการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของปาล์มน้ำมัน ในขณะที่การวิเคราะห์ใบปาล์มน้ำมันเป็นการแสดงให้เห็นถึงปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในต้นปาล์มน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับวิกฤตของธาตุอาหารนั้นๆ
          การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันโดยการจัดการธาตุอาหาร ด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน และใบปาล์มน้ำมัน ในปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานี 1 – 6 บันทึกผลผลิตติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 ปี ที่ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี ปาล์มน้ำมันพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี1 ให้ผลผลิตสะสมสูงสุด (997.87 กก./ต้น) รองลงไป คือ พันธุ์สุราษฎร์ธานี2 (995.76 กก./ต้น) และพันธุ์สุราษฎร์ธานี 5 (979.98 กก./ต้น) ทั้ง 3 พันธุ์ ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ในขณะที่พันธุ์สุราษฎร์ธานี4 (846.96 กก./ต้น), 6 (824.33 กก./ต้น) และ 3 (822.78 กก./ต้น) ให้ผลผลิตต่ำกว่า และแตกต่างกันทางสถิติกับ 3 พันธุ์แรกข้างต้น ส่วนที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุราษฎร์ธานี ปาล์มน้ำมันพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี1 ให้ผลผลิตสะสมสูงสุด (1,171.29 กก./ต้น) และแตกต่างทางสถิติกันกับพันธุ์สุราษฎร์ธานี 2 (991.44 กก./ต้น), พันธุ์สุราษฎร์ธานี5 (983.27 กก./ต้น), พันธุ์สุราษฎร์ธานี 6 (940.10 กก./ต้น), และสุราษฎร์ธานี4 (921.06 กก./ต้น) ตามลำดับ
          งานวิจัยนี้ได้ทดลองวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมัน เพื่อประเมินความต้องการธาตุอาหารในสวนของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากกว่า 1,000 ไร่ขึ้นไป จำนวน 1 ราย ระยะเวลาที่ทางบริษัทใช้ผลการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมันติดต่อกัน 16 ปี และในสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยกระจายไปใน 5 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช และสตูล จำนวน 136 ราย ทำการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมันติดต่อกัน 3 – 5 ปี ในแต่ละปีที่ทำการทดลองนั้น หลังจากวิเคราะห์ตัวอย่างดินและใบปาล์มน้ำมันในห้องปฏิบัติการแล้ว จึงจัดทำเอกสารคำแนะนำการให้ปุ๋ยเคมี และการจัดการธาตุอาหารให้กับผู้เข้าร่วมการทดลองทุกราย โดยทำการเปรียบเทียบระหว่างผลผลิตทะลายสดเฉลี่ยก่อน และหลังการใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมัน หรือ ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ยของผู้ปฏิบัติและผู้ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการประเมินความต้องการปุ๋ยเคมี ผลการทดลองปรากฏว่าในระดับบริษัทที่มีการบันทึกข้อมูลผลผลิต และการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องนั้น ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.64 ในขณะที่เกษตรกรรายย่อยที่ปฏิบัติตามคำแนะนำสามารถรักษาผลผลิตให้คงที่และค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยมีผลผลิตมากกว่า 3.50 ตัน/ไร่/ปี ตามคุณสมบัติ ศักยภาพ และข้อจำกัดของดิน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 6 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 24-09-2568

แจ้งไฟล์หาย