คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การตอบสนองต่อการใช้ปุ๋ยของข้าวโพดหวานในดินร่วน - ร่วนปนทราย : ชุดดินกำแพงแสน/ชุดดินท่าม่วง

คำหลัก :
ผู้วิจัย : สมฤทัย ตันเจริญ
ผู้ร่วมวิจัย : ปิยะนันท์ วิวัฒน์วิทยา,ศิริขวัญ ภู่นา,อนุสรณ์ เทียนศิริฤกษ์,ไพรสน รุจิคุณ
หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน ศูนย์วิจัยยางบุรีรัมย์
ปี: 2558
ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม
จำนวนผู้อ่าน: 10 ครั้ง
บทคัดย่อ (Abstract)

          ศึกษาการตอบสนองต่อปุ๋ยของข้าวโพดหวานพันธุ์ไฮบริกซ์3 ในดินร่วนปนทราย โดยเลือกตัวแทนเป็นชุดดินกำแพงแสนและชุดดินท่าม่วง ชุดดินกำแพงแสน ดำเนินการทดลองที่แปลงเกษตรกร ตำบลหนองปลาหมอ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ปี 2554 - 2556 และชุดดินท่าม่วง ดำเนินการทดลองที่แปลงเกษตรกร ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ปี 2557 - 2558 เพื่อให้ได้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชเฉพาะพื้นที่กับข้าวโพดหวานอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2554 - 2556 คำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชโดยการวิเคราะห์ดินก่อนปลูกในชุดดินกำแพงแสน มีค่าเท่ากับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 20 กก.Nต่อไร่ การใส่ปุ๋ยฟอสเฟตอัตรา 4 กก.P2O5ต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยโพแทชอัตรา 10 กก.K2Oต่อไร่ จึงวางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block ประกอบด้วย 10 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ดังนี้ ใส่ปุ๋ยอัตรา 0-4-10 10-4-10 20-4-10 30-4-10 20-0-10 20-2-10 20-6-10 20-4-0 20-4-5 และ 20-4-15 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ในปี 2557 - 2558 คำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชโดยการวิเคราะห์ดินก่อนปลูกมีค่าเท่ากับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 30 กิโลกรัมNต่อไร่ การใส่ปุ๋ยฟอสเฟตอัตรา 10 กิโลกรัมP2O5ต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยโพแทชอัตรา 10 กิโลกรัมK2Oต่อไร่ วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block ประกอบด้วย 10 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ดังนี้ 1) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 0-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 2) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 3) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 4) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 45-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 5) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-0-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 6) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 7) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-15-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 8) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-10-0 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 9) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-10-5 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ 10) ใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-10-15 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่
          ผลการทดลองปี 2554 พบว่ากรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-5 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุดเท่ากับ 2,116 กก.ต่อไร่ ไม่แตกต่างกับกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-0 20-0-10 20-4-15 และ 20-2-10 กก.N-P2O5-K2O ต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่เท่ากับ 2,062 1,873 1,849 และ 1,754 กก.ต่อไร่ ตามล าดับ ซึ่งกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-5 กก.N-P2O5-K2O ต่อไร่ ทำให้ความสูงของข้าวโพดหวานที่อายุ 30 และ 60 วัน น้ำหนักต้นต่อไร่ จำนวนฝักต่อไร่ และน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุด จึงได้ข้อมูลประกอบคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชจากผลการทดลองปี 2554 คือการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-5 กก.N-P2O5-K2O ต่อไร่ ซึ่งใช้ปุ๋ยโพแทชเพียงครึ่งอัตราของคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยโดยการวิเคราะห์ดินก่อนปลูก
          ผลการทดลองปี 2555 กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุดเท่ากับ 3,034 กก.ต่อไร่ ไม่แตกต่างกับกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-6-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่เท่ากับ 2,986 กก.ต่อไร่ นอกจากนี้กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ทำให้น้ำหนักต้นต่อไร่ จำนวนฝักต่อไร่ และน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุด จึงได้ข้อมูลประกอบคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชจากผลการทดลองปี 2555 คือ การใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ เมื่อคำนวณผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่าการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนทุกกรรมวิธีมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ทั้งนี้เนื่องจากปุ๋ยไนโตรเจนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตของข้าวโพดหวาน
          ผลการทดลองปี 2556 การใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุดเท่ากับ 2,471 กก.ต่อไร่ ไม่แตกต่างกับกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-4-10 และ 20-0-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ แต่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติกับกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 0-4-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ ที่ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่ต่ำสุดเท่ากับ 1,618 กก.ต่อไร่ และในปี 2556 กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 20-4-10 20-0-10 30-4-10 และ 20-2-10 กก.N-P2O5-K2Oต่อไร่ มีค่า VCR เท่ากับ 4.86 3.38 2.60 และ 2.10 ซึ่งมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
          ผลการทดลองปี 2557 พบว่ากรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-15 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุดเท่ากับ 3,259 กิโลกรัมต่อไร่ ไม่แตกต่างกับกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-15-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ซึ่งให้น้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกเท่ากับ 3,241 กิโลกรัมต่อไร่ กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-15 กิโลกรัม N-P2O5-K2Oต่อไร่ ทำให้ความสูงของข้าวโพดหวานที่อายุ 30 วัน น้ำหนักต้นต่อไร่ จำนวนฝักต่อไร่ และน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุด จึงได้ข้อมูลประกอบคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจนฟอสเฟต และโพแทชจากผลการทดลองปี 2557 คือ การใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-15 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ซึ่งใช้ปุ๋ยไนโตรเจนและปุ๋ยฟอสเฟตตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยโพแทชหนึ่งเท่าครึ่งอัตราของคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยโดยการวิเคราะห์ดินก่อนปลูก
          ผลการทดลองปี 2558 กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูงสุดเท่ากับ 3,239 กิโลกรัมต่อไร่ ไม่แตกต่างกับกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-15 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่เท่ากับ 3,203 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ทำให้น้ำหนักต้นต่อไร่ จำนวนฝักต่อไร่ความยาว เส้นผ่านศูนย์กลางของฝักสูงสุด และน้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกต่อไร่สูง จึงได้ข้อมูลประกอบคำแนะนำปริมาณความต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทชจากผลการทดลองปี 2558 คือ การใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ เมื่อคำนวณผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนทุกกรรมวิธีมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ทั้งนี้เนื่องจากปุ๋ยไนโตรเจนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตของข้าวโพดหวาน การใส่ปุ๋ยอัตรา 30-10-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ซึ่งเป็นการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มและมูลค่าผลผลิตเพิ่มสูงสุด ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจคุ้มค่า เกษตรกรสามารถนำไปใช้ในการผลิตข้าวโพดหวานเพื่อลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยเคมี และได้ผลผลิตพืชสูงคุ้มค่ากับการลงทุน
URL Reference :
(ดาวน์โหลด: 4 ครั้ง)
ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 29-09-2568
แจ้งไฟล์หาย