คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสงในพื้นที่จังหวัดน่าน

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ทวีพงษ์ ณ น่าน

ผู้ร่วมวิจัย : ตราครุฑ ศิลาสุวรรณ,ทรงศิลป์ บุญทองโท,มนต์ชัย พันธุ์แก้ว,อดิศักดิ์ ดีตันนา

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน

ปี: 2558

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 8 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสงในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อทดสอบเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสงที่เหมาะสมกับแต่ละแหล่งปลูก โดยใช้กระบวนการเกษตรกรมีส่วนร่วม ดำเนินการทดสอบในแปลงเกษตรกรเทคโนโลยีที่ดำเนินการทดสอบ ได้แก่ พันธุ์ การคลุกเชื้อไรโซเบียม ระยะปลูก การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและการใช้ยิปซั่ม
          ผลการทดสอบ ฤดูแล้ง ปี 2556/57 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 5 ราย รายละ 2 งาน การทดสอบมี 2 กรรมวิธี คือ วิธีของเกษตรกร และกรรมวิธีทดสอบ เกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกถั่วลิสงหลังนา ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม เพราะต้องอาศัยน้ำชลประทาน ปลูกถั่วลิสงในเดือนธันวาคม - มกราคม ซึ่งจะเก็บเกี่ยวในปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม แต่มีเกษตรกรบางรายปลูกพืชชนิดอื่นก่อนที่จะปลูกถั่วลิสง เช่น ข้าวโพดหวาน ผักกาดเขียวปลี และเนื่องจากในเดือนมกราคม มีอุณหภูมิต่ำติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้มีผลต่อการงอกของต้นถั่วลิสง ซึ่งปลูกในระยะเวลาที่แตกต่างกัน แต่เวลางอกใกล้เคียงกัน จึงต้องเก็บเกี่ยวในเวลาที่ใกล้เคียงกันด้วย มีผลทำให้ราคาต่ำ จากการทดสอบพบว่า กรรมวิธีทดสอบให้ผลผลิตฝักสด 564 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนการผลิต 4,619 บาทต่อไร่ ราคาขายกิโลกรัมละ 13 บาทต่อกิโลกรัม มีรายได้สุทธิ 2,713 บาทต่อไร่ ค่า BCR 1.87 และกรรมวิธีเกษตรกร ให้ผลผลิผลผลิต 466 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนการผลิต 3,182 บาทต่อไร่ ราคาขายกิโลกรัมละ 13 บาท ต่อกิโลกรัม มีรายได้สุทธิ 2,876 บาทต่อไร่ ค่า BRC 2.25
          ในปี 2557/2558 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 ราย (ตารางที่ 1) ผลการทดสอบพบว่า ต้นทุนการผลิตถั่วลิสงของเกษตรเฉลี่ยไร่ละ 5,721 บาทต่อไร่ ต้นทุนของวิธีทดสอบเฉลี่ยคือ 5,320 บาทต่อไร่ (ตารางที่2, 3) กรรมวิธีทดสอบและกรรมวิธีเกษตรกร ให้ผลผลิตเฉลี่ยแตกต่างกัน ซึ่งกรรมวิธีทดสอบให้ผลผลิตน้ำหนักสดเฉลี่ย 749 กิโลกรัม/ไร่ กรรมวิธีเกษตรกรให้ผลผลิตน้ำหนักสดเฉลี่ย 574 กิโลกรัม/ไร่ (ตารางที่ 6, 7) เมื่อนำมาวิเคราะห์หาผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ โดยใช้สัดส่วนผลตอบแทนสุทธิ (benefit coat ratio) พบว่ากรรมวิธีทดสอบให้ค่า BCR 2.38 และกรรมวิธีเกษตรกรให้ค่า BCR 1.72 จากการวิเคราะห์ผลความแตกต่างค่าเฉลี่ยผลผลิต 2 กลุ่ม แบบ Pair T-test พบว่า วิธีทดสอบและวิธีเกษตรกรผลผลิตถั่วลิสง ฝักสดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์
          จากการประเมินการทดสอบเทคโนโลยีร่วมกับเกษตรกร พบว่าเกษตรกรให้การยอมรับกรรมวิธีการทดสอบทั้งด้านพันธุ์ที่นำมาทดสอบที่ได้รับการยอมรับจากเกษตรกร ซึ่งมีข้อดี คือ สามารถยืดระยะเวลาการเก็บเกี่ยวได้นานกว่าพันธุ์ของเกษตรกร และถั่วลิสงจะไม่มีการงอกในแปลงเมื่อมีการยืดอายุการเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 1 เดือน ด้านเทคโนโลยี การคลุกเมล็ดด้วยเชื้อไรโซเบียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดอาหารของพืช การใช้ระยะปลูกที่กว้างขึ้นกว่ากรรมวิธีของเกษตรกร ทำให้ลดการใช้เมล็ดพันธุ์และต้นทุนการซื้อเมล็ดพันธุ์ และได้ระยะปลูกที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของถั่วลิสง การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยลดปริมาณและต้นทุนในการใส่ปุ๋ยกรรมวิธีต่างๆ ที่กล่าวมารวมถึงการโรยยิบซั่มในช่วงออกดอก อัตรา 50 กก./ไร่ ช่วยในการเพิ่มผลผลิตถั่วลิสงให้ได้ผลตอบแทนสูงมากกว่ากรรมวิธีของเกษตรกร

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 4 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 06-10-2568

แจ้งไฟล์หาย